แผ่น และ ม้วนคอยล์สแตนเลส
สแตนเลส หรือ เหล็กกล้าไร้สนิม เหล็กในกลุ่มที่มีความต้านทานการกัดกร่อนสูง
“สแตนเลส” หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ “เหล็กกล้าไร้สนิม” เป็นศัพท์ทั่วไปที่ใช้เรียกเหล็กในกลุ่มที่มีความต้านทานการกัดกร่อนสูง สแตนเลสเป็นโลหะผสมระหว่างเหล็กและคาร์บอน ซึ่งส่วนประกอบจะมีปริมาณคาร์บอนต่ำ มีโครเมียมเป็นส่วนผสมหลัก ประมาณ 10.5 % หรือมากกว่าทำให้เกิดการสร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์ (chromium oxide film : CrO2 หรือเรียกว่า passive film) ที่มองไม่เห็นเกาะติด แน่นอยู่ที่ผิวหน้าทำให้เหล็กกล้า มีความต้านทานการกัดกร่อน ฟิลม์ปกป้อง นี้จะมีความบางเทียบเท่ากับวางกระดาษ 1 แผ่นบนตึกสูง 20 ชั้น ถ้าฟิล์มที่ผิวหน้านั้น ถูกทำลายไม่ว่าจากแรงกล สารเคมี หรือออกซิเจนที่มีอยู่ในบรรยากาศ แม้จำนวนน้อยนิดจะเข้าทำปฏิกิริยากับโครเมียม สร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์ทดแทนขึ้นใหม่ด้วยตัวมันเอง
บริษัท โกลบอล กรุ๊ป จำกัด นำเข้าสแตนเลส จำหน่ายสแตนเลสทุกประเภท มีสินค้าทั้งภายในเเละต่างประเทศมีคุณภาพได้มาตราฐาน จัดส่งทั่วประเทศ
Standard ASTM A240
Grade 201, 202, 304, 310, 316, 430
Tickness 0.4mm to 50mm
Surface 2B,BA,Hairline,Mirror,No1,No8
สินค้าแผ่นสแตนเลส ม้วนคอยล์สแตนเลส

แผ่นสแตนเลส 2B
ขนาด 0.4 มิล-3.0 มิล
เกรด 201 202 304 316 430

แผ่นสแตนเลส Hairline
ขนาด 0.4 มิล-3.0 มิล
เกรด 201 202 304 316 430

แผ่นสแตนเลส No.4
ขนาด 0.4 มิล-3.0 มิล
เกรด 201 202 304 316 430

แผ่นสแตนเลส BA
ขนาด 0.4 มิล-2.0 มิล
เกรด 201 202 304 316 430

แผ่นสแตนเลส No.1
ขนาด 3.0 มิล-20.0 มิล
เกรด 201 202 304 316 430

แผ่นสแตนเลส ตีนเป็ด-ไก่
ขนาด 1.0 มิล-4.5 มิล
เกรด 201 202 304 316 430

แผ่นสแตนเลส เจาะรู
ขนาด 0.4 มิล-3.0 มิล
เกรด 201 202 304 316 430

เส้นแบนสแตนเลส
ขนาด 1/2″ ขึ้นไป
เกรด 201 202

ม้วนสแตนเลส
ขนาด 0.4 มิล-3.0 มิล
เกรด 201 202 304 316 430

ฉากสแตนเลส
ขนาด 3/4″-3″
เกรด 304 316
ผิวของสแตนเลส
No.1– รีดร้อนหรือรีดเย็น / อบอ่อน หรือปรับปรุงด้วยความร้อน คราบออกไซด์ไม่ได้ขจัดออก / ใช้งานในสภาพที่รีดออกมาโดยทั่วไปจะใช้งานที่ทนความร้อน
2D– สภาพผิว 2D หลังจากการรีดเย็นโดยลดความหนาลง ผ่านการอบอ่อนและการกัดผิวโดยกรดลักษณะผิวสีเทาเงินเรียบ
2B- ผิว 2D ที่ผ่านลูกรีดขนาดใหญ่กดทับปรับความเรียบ เพิ่มความเงาผิวเงาสะท้อนปานกลาง ผลิตโดยวิธีการรีดเย็น ตามด้วยการอบนำอ่อนขจัดคราบออกไซด์ และนำไปรีดเบาๆ ผ่านไปยังลูกกลิ้งขัด ซึ่งเป็นวิธีการทั่วไปของการรีดเย็น ผิวที่ได้ส่วนมากจะอยู่ในระดับ 2B
BA-ผ่านกระบวนการรีดเย็นโดยความหนาลดลงทีละน้อยๆ ผ่านการอบอ่อนด้วยก๊าซไฮโดรเจน เพื่อป้องกันกันการออกซิเดชั่นกับออกซิเจนในอากาศ ผิวมันเงา สะท้อนความเงาได้ดี ผิวผลิตภัณฑ์สแตนเลสจะกระทำด้วยวิธีนี้ ซึ่งจะมีเครื่องหมาย BA หรือ No.2BA, A ซึ่งผิวอบอ่อนเงา จะมีลักษณะเงากระจก ซึ่งเริ่มต้นจากการรีดเย็น อบอ่อนในเตาควบคุมบรรยากาศ ผิวเงาที่เห็นจะเป็นการขัดผิวด้วยลูกกลิ้งขัดผิว หรือเจียรนัยผิวตามเกรดที่ต้องการ ผิวอบอ่อนเงาส่วนมากจะใช้กับงานสถาปัตยกรรม ที่ต้องการผิวสะท้อน ผิวอบอ่อนสีน้ำนมจะไม่สะท้อนแสงเหมือนกับ No.8 จะใช้กับงานที่เป็นขอบ ชิ้นส่วนทางสถาปัตยกรรม ภาชนะในครัว อุปกรณ์ในกระบวนการผลิตอาหาร
No.4, Hair Line- สภาพผิว 2B ที่ผ่านการจัดถูด้วยกระดาษทรายเบอร์ 120-220 โดยค่าความหยาบขึ้นอยู่กับแรงกด, ขนาดของอนุภาคเม็ดทราย และระยะเวลาการใช้งานของกระดาษทราย ผิว No.4 เป็นสภาพผิวที่สนองต่อการนำไปใช้งานทั่วไป เช่นร้านอาหาร อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว อุปกรณ์รีดนม
No.8– สภาพผิว 2B, BA ขัดด้วยผ้าขัดอย่างละเอียดมากขั้นตามลำดับ เช่น #1000, ผ้าขนสัตว์ โดยมีผงขัดอะลูมิเนียมและโครเมียมออกไซด์ ผิว No.8 ส่วนมากจะเป็นผิวเงาสะท้อนคล้ายกระจกเงา ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นสเตนเลสชนิดแผ่นโดยผิวจะถูกขัดด้วยเครื่องขัดละเอียด นำไปใช้กับงานตกแต่งทางด้านสถาปัตยกรรม และงานที่เน้นความสวยงาม

สแตนเลส สตีล ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในท้องตลาด คือ
สแตนเลสเกรด 304 (SUS 304) เป็นสแตนเลสที่มีสารโครเมี่ยมอยู่ 18% และนิเกิ้ลอยู่ 8 % บางที่เรียกว่า สแตนเลส 18/8 ซึ่งจะไม่มีสารโมลิดินั่ม , มีคาร์บอนต่ำ และเป็นสแตนเลสที่ทนต่อการเกิดสนิม (Oxidation) และทนการกัดกร่อนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี (Corrosion) เนื่องจากมีสารนิเกิ้ลจึงทำให้แม่เหล็กดูดไม่ติด มีคาร์บอนด์ ต่ำจึงมีความเหนียวสูง สามารถใช้กับการปั้มขึ้นรูปสูง ๆ ได้ เช่น การทำอ่างซิงค์หรือภาชนะในครัวต่าง ๆ เพราะสามารถทนความร้อนได้ดี เช่น หม้อ กระทะ เป็นต้น
สแตนเลสเกรด 316 (SUS 316) เป็นสแตนเลส ที่นิยมใช้รองลงมาจากเกรด 304 เป็นสแตนเลสสตีล ที่มีส่วนผสมคล้ายกับเกรด SUS 304 แต่เกรด 316 จะมีส่วนผสมของ สารโมลิดินั่ม เพิ่มเข้าไปทำให้สแตนเลสเกรดนี้ สามารถทนต่อการเกิดสนิม และการกัดกร่อนได้สูงกว่าเกรด 304 โดยเฉพาะการทนต่อสารคลอรีน ( Warm Chlorine Enviromentle ) จึงนิยมใช้ในงานทำอุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องแลป ส่วนงานอุตสหกรรมอาหาร , อุตสหกรรมสารเคมีต่างๆ , อุปกรณ์เรือ จนถึงประเภทงานสปริง ที่ต้องให้ทนสนิม โดยการลดคาร์บอนลงจาก 0.08% ลงมาเหลือ 0.03% ทำให้สแตนเลสเหนียวขึ้นจนสามารถเป็นสปริงได้ เป็นเกรด SUS 316 L (Low Carbon)
สแตนเลสเกรด 430 (SUS 430) เป็นสแตนเลสที่คล้าย เกรด 304 แต่จะไม่มีสารนิเกิ้ล จึงทำให้แม่เหล็กดูดติด แต่จะไม่ติดขนาดเหล็ก แต่ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันสนิมได้ดี แม้จะไม่เท่าเกรด 304 แต่เกรดนี้จะมีคาร์บอนด์สูงถึง 0.12% จึงมีความแข็งแกร่งสูงกว่าสแตนเลสเกรด 304 และ 316 เหมาะสำหรับงานที่รับแรงสูงกว่า เพราะปรกติสแตนเลสมักจะมีความเหนียวมากกว่าความแข็ง ในกรณีที่สารคาร์บอนสูงกว่า 0.15% จะกลายเป็นเกรด 420 ซึ่งมีความแข็งที่เหมาะสำหรับทำอุปกรณ์ชุดครัวในเรื่องการตัดหั่นต่าง ๆ เช่น ทำมีดต่าง ๆ เป็นต้นการทำสกรูน๊อตสแตนเลสจะนิยมใช้เกรด SUS 304 เพื่อมีความคงทนต่อสิ่งแวดล้อมได้ดีพอสมควร ส่วนเกรด SUS 316 จะนิยมใช้กับงานในอุตสหกรรมเคมี ในห้องแลป หรือในท้องทะเล ส่วนสกรูปลายสว่านที่เป็นสแตนเลสจะเป็นเกรด SUS 410 เพราะมีความแข็งพอใช้ และเกรด 304 หรือ เกรด 316 ใช้ไม่ได้ เพราะมีความแข็งไม่พอ แต่ความสามารถในการทนสนิมจะน้อยกว่า
สแตนเลสเกรด 202 (SUS202) เป็นสแตนเลสอีกเกรดที่น่าสนใจ ซึ่งจะประกอบด้วย โครเมี่ยม , นิเกิ้ล และแมงกานีส ซึ่งแม่เหล็กดูดไม่ติด แต่ความทนทานต่อสนิมจะต่ำกว่าเกรด SUS 304 มักนิยมใช้ในงานผลิตสินค้า ฮาร์ดแวร์ ต่าง ๆ เช่น บานพับ และกลอนประตูเกรดล่าง
สแตนเลส เกรด 310 เกรด 310S (SUS310) เป็นสแตนเลสเหมาะกับการใช้กับงานทนความร้อนสุง 1,150 องศา งานเตาอบ เตาหลอม ฉนวนกั้นความร้อน
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับสแตนเลสสตีล
สแตนเลสสตีล คือ โลหะผสม (Ferrous Alloy) ระหว่างเหล็กกับสารหลายชนิด ที่สำคัญ คือ สารโครเมี่ยมอย่างน้อย 10%
ที่ทำให้เหล็กกลายเป็นโลหะผสม ที่สามารถทนการกัดกร่อน และ ทนสนิมทั้งจากธรรมชาติ และจากสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นสแตนเลส สตีล แบ่งออกได้มากกว่า 150 ชนิด แต่สามารถแบ่งเป็นกลุ่มได้ 8 กลุ่มด้วยกันขึ้นอยู่กับส่วนผสมของธาตุต่างๆ ที่ทำให้มีคุณสมบัติบางอย่างที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้ต้องพิจารณาจากคุณสมบัติ และความเหมาะสมของงานด้วย ส่วนผสมที่ทำให้งานมีคุณสมบัติแตกต่างกันหลัก ๆ มีดังนี้
สารโครเมี่ยม เป็นสารผสมหลักที่จะทำให้เหล็กมีคุณสมบัติในการทนทานต่อการเกิดสนิม และการกัดกร่อนต่าง ๆ
สารนิเกิ้ล ช่วยเสริมความต้านทานในการเกิดสนิม และทำให้สแตนเลสไม่ดูดแม่เหล็ก
สารโมลิดินั่ม ทำให้สแตนเลส มีความต้านทานในการเกิดสนิมสูงขึ้น และความคงทนต่อสารเคมี เช่น คลอรีน เป็นต้น
สารคาร์บอน เป็นตัวเพิ่มความแข็งให้กับสแตนเลส ถ้ามีคาร์บอนน้อย สแตนเลสก็จะมีความเหนียวเพิ่มขึ้นแทน
สแตนเลสสามารถปรับปรุงคุณสมบัติในการต้านทานการกัดกร่อนและสมบัติอื่นๆ ที่ต้องการให้สูงขึ้นได้โดยการเพิ่มส่วนผสมของโครเมียม และเพิ่มธาตุอื่นๆ เช่น โมลิบดิบนัม นิกเกิลและไนโตรเจนเข้าไป สเตนเลสมีอยู่มากกว่า 60 ชนิด
สแตนเลส เป็นโลหะที่มักจะถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นมากมาย เช่น ยากต่อการขึ้นสนิมเมื่อเทียบกับโลหะหรือวัสดุชนิดอื่นๆ ค่าบำรุงรักษาต่ำ ง่ายต่อการเชื่อมและการขึ้นรูป ระยะเวลาการใช้งานคุ้มค่ากับราคา และสามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ทั้งหมด แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ก่อให้เกิดอันตรายอีกด้วย ที่สำคัญคือมีน้ำหนักเบามาก จึงทำให้เคลื่อนย้ายได้ง่ายและใช้งานได้อย่างสะดวก ในปัจจุบัน เราจึงมักจะพบผลิตภัณฑ์ของใช้ต่างๆ ที่ทำขึ้นจากสแตนเลส รวมถึงในงานอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ซึ่งก็แสดงให้เห็นได้ว่า สแตนเลส เป็นโลหะที่ทรงคุณค่าคุณสมบัติและประโยชน์ใช้สอยที่ไร้ขีดจำกัด และเป็นโลหะที่ได้รับความนิยมและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างแพร่หลาย
ประเภทของสแตนเลสก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ใหญ่ๆ ตามโครงสร้างของสแตนเลสดังนี้
สแตนเลสออสเทนนิติค
สแตนเลสออสเทนนิติค เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมใช้มากที่สุด มีคุณสมบัติที่แม่เหล็กดูดไม่ติด ประกอบด้วยโครเมียมประมาณ 18% มีส่วนผสมของนิกเกิลเพื่อเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน และทำให้เชื่อมหรือขึ้นรูปได้ง่าย
สแตนเลสเฟอร์ริติค
สแตนเลสเฟอร์ริติค มีคุณสมบัติที่แม่เหล็กดูดติด ประกอบด้วยคาร์บอนในปริมาณต่ำ และมีโครเมียมเป็นโลหะผสมหลักประมาณ 10.5-30% มีความแข็งแกร่งสูงกว่าออสเตนิติก จึงมักถูกนำมาใช้กับงานที่ต้องเสี่ยงต่อการแตกร้าวเนื่องจากแรงเค้นและการกัดกร่อน (Stress-Corrosion Cracking) ยิ่งกว่านั้นเฟอร์ริติกบางชนิดยังมีส่วนผสมของไททาเนียม หรือไนโอเบียม จัดเป็น “กลุ่มเสถียร” ที่มีความสามารถในการเชื่อมได้ดีและต้านทานการกัดกร่อนดียิ่งขึ้น
สแตนเลสมาร์เทนซิติค
สแตนเลสมาร์เทนซิติค เป็นตระกูลที่มีความต้านทานการกัดกร่อนน้อยกว่าออสเทนนิติค และเฟอร์ริติค แต่มีความทนทานและแข็งแรงมากกว่า มีคุณสมบัติดูดแม่เหล็ก โดยทั่วไปจะมีส่วนผสมของโครเมียม 12-14 เปอร์เซนต์ โมลิบดินัม 0.2-1 เปอร์เซนต์ มีนิกเกิ้ล 0-2 เปอร์เซนต์และมีคาร์บอนผสม อยู่ประมาณ 0.1-1 เปอร์เซนต์ ซึ่งสามารถชุบแข็งได้โดยการให้ความร้อนแล้วทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็วและอบ คืนตัว โดยทั่วไปจะรู้จักกันใน “ซีรี่ส -00”
สแตนเลสดูเพล็กซ์
เป็นสแตนเลสที่มีความแข็งแรงและสามารถทนทานต่อการกัดกร่อนได้สูง นิยมนำมาใช้งานในอุตสาหกรรมและการผลิตวัสดุบางอย่างที่ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อน ซึ่งส่วนผสมของสแตนเลสตระกูลนี้ก็จะมีโครเมียมประมาณ 19-28% มีโมลิบดินัมสูงกว่าประมาณ 5% และมีนิกเกิลในปริมาณเพียงเล็กน้อย
สแตนเลสเพิ่มความแข็งโดยการตกผลึก
เป็นสแตนเลสที่มีความแข็งแรงทนทานต้านทานการกัดกร่อนได้ดี และสามารถชุบแข็งได้ในคราวเดียว จึงมักจะถูกนำมาใช้ทำแกน ทำส่วนประกอบของอากาศยานและทำปั๊มหัววาล์วนั่นเอง โดยส่วนผสมของสแตนเลสประเภทนี้ก็จะมี โครเมียม 17% นิกเกิล 4% และทองแดงกับไนโอเบียมในปริมาณอย่างละเล็กน้อย